จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ระบุว่า การรับส่งสินค้าธุกิจไปรษณีย์ภัณฑ์และรับส่งสินค้าได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะธุรกิจ E-Commerce ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันให้เกิดการขยายตัวของธุรกิจดังกล่าว บริษัท ซุปเปอร์เอส เซ็นเตอร์ จำกัด นับเป็นอีกหนึ่งบริษัทรับส่งไปรษณีย์ที่ดำเนินธุรกิจโดยคนไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและภาครัฐ อาทิ บริษัท ไปรษณีย์ จำกัด ธนาคารออมสิน ภายใต้มาตรฐานแฟรนไชส์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ที่เน้นการออกแบบธุรกิจด้านบริการรับส่งพัสดุไปรษณีย์ และ จุดชำระบิล ในรูปแบบงานบริการ One stop service มาตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งในปี 2562 นี้ ได้ตั้งเป้าขยายฐานบริการให้มากขึ้น หวังดันระบบโลจิสติกส์สายพันธุ์ไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น นายศุภชัย นิลวานิช ประธานกรรมการบริษัท ซุปเปอร์เอส เซ็นเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้จัดทำโครงการมันนีโพสต์ขึ้น เพื่อตอบสนองตลาดภาคขนส่งที่กำลังเติบโตให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ และประชาชนทั่วไปเข้าถึงบริการด้านนี้ได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และธนาคารออมสิน ในการขยายงานในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยมีจุดบริการ Drop Off ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทย และสาขาที่เป็นฐานลูกค้าเดิมของบริษัท ฯ รวมแล้วกว่า 1,000 จุดทั่วประเทศ โดยที่มาของธุรกิจดำเนินการส่งเสริมอาชีพแฟรนไชส์รับส่งพัสดุไปรษณีย์ และ จุดชำระบิล ในรูปแบบงานบริการ One stop service มาตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งสามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการอาชีพอิสระได้กว่า 200 สาขาทั่วประเทศ ปัจจุบันได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และธนาคารออมสิน และยังเป็นจุดรับสินค้าของลาซาด้า รวมถึงงานบริการจุดชำระบิลของทรูมันนี่ เอ็กซ์เพรส และเอ็มเปย์ สเตชั่น ด้วย ขณะนี้บริษัท ซุปเปอร์เอสฯ ได้ขึ้นทะเบียนมาตรฐานแฟรนไชส์กับภาครัฐแล้ว เพราะว่าผ่านการอบรมจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พร้อมกับได้จัดทำโครงการมันนีโพสต์ดังกล่าว เพื่อส่งเสริมอาชีพอิสระให้กับผู้สนใจทั่วไป ซึ่งมีผลดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ ยุคไทยแลนด์ 4.0 ก้าวสู่ 5.0 เนื่องจากลูกค้าหรือบริโภคต้องการบริการที่รวดเร็ว และแม่นยำ โดยได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้งาน ในขณะเดียวกัน บริษัท ซุปเปอร์เอสฯ เป็นพันธมิตร ของไปรษณีย์ไทย เพื่อช่วยรับงานจากลูกค้าหรือประชาชน โดยส่งเสริมเปิดร้านใกล้ ๆ กับชุมชนเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับคนไทย นายศุภชัย กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการตลาดของบริษัท ซุปเปอร์เอสฯ นั้น ในช่วง 1-2 ปีนี้จะเน้นเปิดสาขาในเขตเมือง หรือชุมชนใหญ่ ๆ เป็นหลัก โดยจะให้ความสำคัญกับคัดเลือกผู้ประกอบการ ไม่เพียงทีทำเลที่ดีเท่านั้น แต่จะต้องมีคุณสมบัติที่พร้อมเป็นผู้นำและชอบงานบริการด้วย ส่วนงบการลงทุนนั้นไม่ใช่เป็นปัจจัยหลัก เนื่องจากทางธนาคารออมสินมีโครงการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจแฟรนไชส์อยู่แล้ว นอกจากนี้เรายังวางแผนให้สมาชิกหรือสาขามีรายได้เข้ามาหลากหลายช่องทาง โดยสนับสนุนให้เปิดศูนย์รับฝากและกระจายสินค้าให้กับลูกค้าด้วย ทั้งนี้เพื่อเพิ่มช่องทางหารายได้ตามทิศทางงานบริการที่เปลี่ยนแปลงไป “supers. นับว่าโชคดีมากที่บริษัทใหญ่ ๆ ทั้งเอกชนและรัฐบาลเข้ามาสนับสนุนหรือร่วมกันเป็นพันธมิตรอย่างเต็มที เปิดช่องทางธุรกิจให้ขยายตัวได้ และสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆได้อีกมาก บนฐานความมั่นคง ซึ่งsupers. เป็นธุรกิจที่น่าลงทุน และใช้เงินไม่สูงจนเกินไป ใครๆก็เป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองได้และตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคในยุคออนไลน์เฟื่องได้เป็นอย่างดี”คุณศุภชัย กล่าว |
Siamcoverage TH >