นางอรมน กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่อาเซียนให้ความสำคัญและพยายามผลักดันอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้อาเซียนจะร่วมกันผลักดันให้ระบบนี้เชื่อมโยงกันได้ครบทั้ง 10 ประเทศสมาชิก และในฐานะไทยเป็นประธานอาเซียนปีนี้มีเป้าหมายที่จะผลักดันการใช้ระบบดังกล่าวให้แล้วเสร็จในปีนี้ ซึ่งนอกจากการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าแล้ว จะมีการขยายการออกใบรับรองด้านสุขอนามัย หรือ SPS ซึ่งไทยให้ความสำคัญกับอาหารและผักผลไม้ รวมถึงใบรับรองสินค้าอุตสาหกรรมผ่านอิเล็กทรอนิกส์ได้ ด้านนายศิริพงษ์ วุฑฒินันท์ นายด่านศุลกากรสะเดา ระบุว่า หลังจากเริ่มทดลองใช้ระบบดังกล่าว พบว่ามีการใช้แบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ประมาณร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับการใช้เอกสารแบบเดิม ซึ่งจากการใช้ระบบดังกล่าวซึ่งถือว่ายังไม่มากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการยังไม่เข้าใจโดยขอให้กระทรวงพาณิชย์จัดอบรมให้ความรู้เพื่อดึงผู้ประกอบการให้มาใช้การเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น ปัจจุบัน สมาชิกอาเซียน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์และเวียดนาม ได้เชื่อมโยงการใช้งานระบบดังกล่าวแล้ว ส่วนบรูไน กัมพูชาและหิลิปปินส์ ได้เริ่มทดสอบการเชื่อมโยงแล้ว ส่วนเทียนมาและสปป.ลาว อยู่ระหว่างพัฒนาระบบเพื่อเตรียมเข้าร่วมการทดสอบ โดยกรมศุลกากรและสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านได้ร่วมช่วยเหลือเพื่อให้มีการใช้ทั้ง 10 ประเทศ. |
Siamcoverage TH >