การทำดีด้วยหัวใจ และการบรรเทาทุกข์ให้คนอื่น โดยไม่ได้หวังผลตอบแทน นับเป็นการเสียสละตัวเองอย่างน่ายกย่องชื่นชม ซึ่งหากยังจำกันได้ ในช่วงที่มีพระราชพิธีกราบพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้มีกลุ่มจิตอาสาช่วยงานในส่วนต่างๆ เพื่อ เป็นการทำความดีถวายฯในงาน"ทำเพื่อพ่อเป็นครั้งสุดท้าย” ที่ท้องสนามหลวง ซึ่งคู่หูจิตอาสา ‘เค เยาวราช’ หรือ สมศักดิ์ ศรีเพชร และ ‘กอล์ฟ ภูตะคา ชัยเชาวรัตน์’ ก็เป็นส่วนหนึ่งในบรรดาจิตอาสาในขณะนั้น ซึ่งแม้กาลเวลาจะผ่านมานับปี แต่ 2 นักจิตอาสาฯ ก็ยังไม่ทิ้งอุดมการณ์ ยังคงสานต่อเจตนารมณ์ทำความดีกันต่อไป ล่าสุด 2 พี่น้องจิตอาสาก็ได้ไปร่วมกันแจกอาหาร เครื่องดื่ม ให้ประชาชนที่เดินทางกลับจากต่างจังหวัดเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ที่หัวลำโพงอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ในโอกาสนี้เรามาทำความรู้จักกับเขาทั้ง2คนว่าเป็นใคร มีอุดมการร์และแนวคิดการเสียสละเพื่อสังคมนี้สืบเนื่องมาจากแรงบันดาลใจอย่างไร ‘เค เยาวราช’ หรือ สมศักดิ์ ศรีเพชร เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2513 ที่จังหวัดเพชรบุรี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี การเมืองการปกครอง จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันยังโสด โดย เค เยาวราช " เล่าว่า ชีวิตวัยเด็กเกิดมาในครอบครัวใหญ่ที่ยากจน มีพี่น้องถึง 12 คน ผมเป็นลูกคนที่ 9 ไม่ได้เรียนหนังสือ พ่อเป็นนักมวยเก่า ตอนเด็กจึงได้ยึดอาชีพนักมวย ซึ่งเป็นอาชีพของลูกผู้ชาย ตอนอายุได้ 9 ขวบวันหนึ่งได้ไปชกมวยที่เวทีมวยสำโรง จ.สมุทรปราการ และถูกพี่เลี้ยงโกงเงินค่าตัว จริงๆเขาคงไม่ได้ตั้งใจที่จะโกง แต่วันนั้นมวยแพ้ และเสียเดิมพันไปจนหมด เขาก็เลยหนีไป ผมเดินทางเพื่อกลับบ้าน มาถึงสนามหลวงเกือบ ๆ เที่ยงคืน รถโดยสารประจำทางหมดแล้ว ความเหนื่อยล้า กอปรกับขึ้นชกมวย รับอาวุธมาหลายขนาน ทำให้ต้องนอนหลับไป พอตื่นขึ้นมาก็พบว่า มีข้าวกล่องหนึ่ง และเงิน 20 บาท วางไว้ ผมรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของคน ๆ นั้นที่ให้ในยามที่หิวโหย และไม่มีเงิน อีกทั้งในสมัยนั้นเงิน 20 บาท ก็ไม่ใช่น้อย ๆ ผมจึงตั้งปณิธานไว้ว่า โตขึ้น เมื่อผมมีเงิน ผมจะต้องให้แบบเดียวกับที่ผมได้รับ นั่นจึงเป็นที่มาของการที่ผมได้ทำการแจกอาหารให้กับประชาชนเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ทางด้าน ‘กอล์ฟ ภูตะคา ชัยเชาวรัตน์’ เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2522 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีศิลปศาสตร์ คณะรัฐศาสาตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ประกอบอาชีพ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตำแหน่ง กรรมการบริษัท สิทธารมณ์ ลิฟวื่งโฮม จำกัด ปัจจุบันก็ยังโสดเช่นกัน ซึ่ง กอล์ฟ บอกว่า เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะ ช่วงวัยรุ่นใช้ชีวิตอย่างโชกโชนทั้งกิน ทั้งเที่ยว จบมาก็บ้างาน ก่อนที่จะมาประสบอุบัติเหตุถูกรถชน เมื่อรู้ว่าผมกลายเป็นคนพิการ เดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิต ผมรู้สึกท้อใจมาก ต้องใช้ระยะเวลาร่วม ๆ 1 ปี กับการทำใจ ที่ผ่านมาได้ก็เพราะได้เห็นในหลวงรัชการที่ 9 ที่ทรงดำเนินพระราชกรณียกิจ ด้วยการเสียสละ พระองค์ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยกว่าพวกเราทุกคน ทำให้ผมคิดได้ว่า เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ก็ควรจะทำประโยชน์ให้กับสังคม จึงได้เข้าร่วมเป็นจิตอาสาเพื่อสังคมอย่างเต็มตัวในช่วงงานพิธีถวายอาลัยและเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวง รัชกาลที่ 9" ทั้ง ‘เค เยาวราช’ และ ‘กอล์ฟ ภูตะคา’ แม้จะมีแนวคิดการทำจิตอาสาที่แตกต่างกันคือ ‘เค เยาวราช’อยากตั้ง "ธนาคารบุญ" ที่ทุกคนสามารถทำความดีได้อย่างไม่สิ้นสุด ทำความดีโดยไม่ต้องรีรอ ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมทำความดีร่วมกันเพื่อผู้ประสบภัย ผู้ยากไร้" ในขณะที่ ‘กอล์ฟ ภูตะคา’ มีแนวคิดจะจัดสรรพื้นที่อย่างน้อย 5 เปอร์เซ็นต์ของโครงการออกแบบ ทำบ้าน ทำสวนสาธารณะสำหรับคนพิการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนกับคนปกติทั่วไป"แต่ที่คู่หูทั้งสองมีเหมือนกันคือ การมี ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นต้นแบบแห่งการเสียสละเพื่อประชาชนของพระองค์ ดังนั้น ทั้งสองจึงมีความเห็นตรงกันว่า การทำงานจิตอาสาไม่จำเป็นต้องลงมือทำด้วยเงินมากมาย แต่สามารถลงมือทำด้วยแรงกาย และแรงใจ ทำด้วยจิตบริสุทธิ์ ไม่ต้องกลัวคำครหานินทา ผลตอบแทนกลับมาคือความสุขใจ เพราะการให้ไม่มีที่สิ้นสุด สังคมจะสงบสุข เกิดความรัก และสามัคคี ก็เพราะการให้ มีมากให้มาก มีน้อยก็ให้น้อย ช่วยกันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนที่ด้อยโอกาส ให้คนที่ขาดแคลน มีไม่พอได้อิ่มท้อง จะได้มีแรงกาย แรงใจ ให้ได้ต่อสู้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงในสังคมต่อไป |
สัมภาษณ์ พิเศษ >